10 สถานที่ ในยุโรป ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

10 สถานที่ ในยุโรป ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง เบื่อการเดินทางในประเทศหรือยัง? ใครสนใจไปเที่ยวต่างประเทศที่ห่างไกลบ้าง? และเมืองสวยๆ แนะนำให้เที่ยวยุโรปครับ แต่ก่อนไปต้องเลือกสถานที่ท่องเที่ยวให้ดีก่อนเพราะยุโรปมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก เที่ยวครั้งเดียวส่วนใหญ่จะไม่ไปเที่ยวแค่ประเทศเดียวแน่นอน แต่เนื่องจากยุโรปอาจมีบางประเทศที่เดินทางไปได้ยาก หรือเข้าประเทศยาก ต้องใช้เวลาเตรียมตัวนาน ทั้งจองโรงแรม, หาที่เที่ยว, ตั๋วเครื่องบิน. เอกสารวีซ่าท่องเที่ยวต่างๆ คนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปเที่ยวมากกว่า

หากต้องการแนะนำทัวร์ราคาก็ถือว่าคุ้มครับ ลองค้นหาแพ็คเกจทัวร์ยุโรปกับบริษัท (Tours) ซึ่งเป็นศูนย์รวมแพ็คเกจท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นในเอเชียหรือยุโรป หลายเส้นทาง ใครอยากไปยุโรปก็ลองก่อนได้ นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจที่รวมตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

1. โคลอสเซียม โรม – อิตาลี

โคลอสเซียม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม คุณสามารถเข้าไปชมด้านในของโคลอสเซียมได้ แต่ต้องซื้อตั๋ว ราคาประมาณ 25 ยูโร ราคาตั๋วค่อนข้างแพงแต่ถ้าอยากชมภาพประวัติศาสตร์แนะนำให้ไปดูสักครั้งครับ

อย่างไรก็ตามลองเปรียบเทียบกับราคาแพ็คเกจทัวร์ยุโรปที่รวมตั๋วไว้ก่อน ราคาอาจจะคุ้มค่ากว่า และทุกวันนี้พื้นอารีน่าในโคลอสเซียมที่มีอยู่ในอดีตอาจจะพังทลายลงมาเกือบหมดแล้ว แต่อิตาลีเพิ่มบางส่วนของสนามเพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างไรและสวยงามแค่ไหน

2. หอเอนเมืองปิซา เมืองปิซา ประเทศอิตาลี

หอเอนเมืองปิซายังเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังก็มีผู้คน นักท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปมาถ่ายรูปกันอย่างต่อเนื่อง บริเวณหอเอนเมืองปิซาเป็นแหล่งมรดกโลก ดังนั้นกฎหมายจึงห้ามไม่ให้ยานพาหนะขนาดใหญ่ แต่มีจุดที่สามารถจอดรถประจำทางได้ หลังจากนั้นต้องเปลี่ยนเป็นรถเล็กหรือเดินเข้าไป พอมาถึง เราก็ถ่ายรูปกับไกด์สักหน่อย เราไม่เพียงแต่มีประสบการณ์การเดินทางที่ดีเท่านั้น นอกจากนี้ยังแนะนำท่าถ่ายภาพที่ไม่ซ้ำใครสำหรับแต่ละคนอีกด้วย และหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหอเอนเมืองปิซามีรูปร่างไม่ปกติ มีโค้งนิดหน่อย. เพราะเมื่อก่อนพวกเขาสร้างหอเอนเมืองปิซาพยายามสร้างให้ไม่พังจึงทำให้โค้งเล็กน้อย

3.พระราชวังแวร์ซายส์ ปารีส-ฝรั่งเศส

พระราชวังแวร์ซาย พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระราชวังที่เป็นต้นแบบให้กับพระราชวังหลายแห่งในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังเชินบรุนน์ของออสเตรีย พระราชวัง Herrengiemsee ของเยอรมัน ต่างก็ใช้พระราชวังแวร์ซายส์เป็นแบบอย่าง ภายในพระราชวังจะมีห้องต่างๆ ของเหล่าทวยเทพ เช่น ห้องเนปจูน ห้องวีนัส ห้องอพอลโล ซึ่งเป็นห้องสีเรียงกัน และสัมผัสวิถีชีวิตและวิถีชีวิตของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จากการชมพระราชวังแวร์ซายส์

4. หอไอเฟล ปารีส – ฝรั่งเศส

หอไอเฟลถือเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส หากใครมาเที่ยวฝรั่งเศสต้องมาถ่ายรูปกับหอไอเฟลอย่างแน่นอน ถ้าคุณไม่เคยไปหอไอเฟล แสดงว่าคุณยังไม่เคยไปฝรั่งเศส หากคุณต้องการขึ้นไปบนยอดหอไอเฟล คุณจะต้องมีตั๋ว ซึ่งโปรแกรมทัวร์ยุโรปบางโปรแกรม จะมีตั๋วให้ สามารถขึ้นลิฟต์ไปถ่ายรูปด้านบนได้ แต่การต่อคิวต้องใช้เวลาพอสมควร เวลาขึ้นเครื่องและเข้าคิวทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง

5. นครรัฐวาติกัน

นครรัฐวาติกันเป็นประเทศที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอิตาลีโดยตรง สมเด็จพระสันตะปาปาเป็นประมุขแห่งรัฐ มีกระทรวงเป็นของตัวเอง มีที่ทำการไปรษณีย์เป็นของตัวเอง มีระบบจัดสรรเป็นของตัวเอง ประวัติความเป็นมาของนครรัฐวาติกันก่อนการสถาปนาประเทศอิตาลี จะมีหลายภูมิภาค ซึ่งต่อมาได้รวมตัวกันเป็นประเทศอิตาลี แต่สมเด็จพระสันตะปาปาไม่เห็นด้วยกับการรวมประเทศ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาสามารถบรรลุข้อตกลงและได้รับประเทศของตนเอง ซึ่งก็คือเมืองมาติกัน ทำให้เมืองมาร์ตินีกเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก และนักท่องเที่ยวทัวร์ยุโรปส่วนใหญ่ต้องมาประเทศนี้ เพราะเป็นประเทศที่เล็กและสวยงามมาก

6. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ปารีส – ฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พิพิธภัณฑ์ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในปารีส และเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับทัวร์ยุโรปอีกด้วย ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของมีค่ามากมาย เช่น ภาพวาดเก่า ภาพวาด La Chacan รูปปั้นวีนัส และโมนาลิซ่าที่วาดโดย Leonard de Vinci พิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นอาคารต่างๆ ได้แก่ อาคารอียิปต์และอาคารอียิปต์ เอเชีย ฯลฯ ไม่สามารถเดินชมทุกสิ่งในพิพิธภัณฑ์ได้เนื่องจากมีขนาดกว้างขวางมาก

7. ภูเขาจุงเฟรา สวิตเซอร์แลนด์

จุงเฟราเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และสามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟ ฉันต้อง จุงเฟราเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และสามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟ ต้องบอกว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว อุณหภูมิอากาศบนที่ราบประมาณ 12-20 องศาเซลเซียส ในภูเขาอุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณเลขหลักเดียวหรือติดลบ เราจะสามารถเห็นหิมะบนยอดเขาได้ตลอดทั้งปีเพราะเป็นยอดเขาที่สูงมาก เราสามารถเดินไปยังสถานีสฟิงซ์ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปได้ บนยอดเขาอากาศเบาบางมากและอาจต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคย เมื่อถึงสถานีแล้ว คุณสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวได้

8. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์, กรุงโรม – ประเทศอิตาลี

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ยุโรป ภายในมีรูปปั้นหินอ่อน “ปีเอต้า” ซึ่งเป็นรูปปั้นพระแม่มารีโอบกอดพระเยซูคริสต์ หลังจากถูกตรึงกางเขน ด้วยใบหน้าที่ดูเศร้าสร้อย ซึ่งคล้ายกับคนจริงๆ มาก เป็นผลงานของไมเคิลแองเจโล

นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อื่นๆ ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เช่น เสาพลับพลาที่ออกแบบโดยแบร์นีนี โดมขนาดใหญ่นั้นหาได้ยาก และไฮไลท์อีกอย่างในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์คือ Swiss Guards ซึ่งเป็นทหารสวิสที่มีเครื่องแบบเท่มาก สาวๆ หลายๆ คนคงอยากขอถ่ายรูปด้วยเพราะว่าพวกเธอมีหน้าตาที่หล่อมากด้วย

9. น้ำพุเทรวี

ในส่วนของน้ำพุเทรวีนั้นมีรูปปั้นเทพเจ้าโพไซดอนอยู่ด้านหลังยืนอยู่ตรงกลาง ถัดมาเป็นรูปปั้นนางเทรวี (ผู้ค้นพบน้ำพุเทรวี) และกษัตริย์ออคโตเวียส ว่ากันว่าเมื่อโยนเหรียญสามเหรียญแล้ว ใช้มือขวาจับเหรียญหันหลังให้น้ำพุเทรวีแล้วโยนลงในน้ำพุเทรวี จะกลับมาที่แห่งนี้อีกครั้ง ข้างๆกันมีร้านไอศกรีม ไอศกรีมผลไม้อร่อยมาก และคุณสามารถใช้ห้องน้ำได้ฟรีในร้านไอศกรีมแห่งนี้ด้วย หากเป็นที่อื่นจะต้องเสียค่าเข้าห้องน้ำ ข้อควรระวังคือ แถวๆ นี้มีคนล้วงกระเป๋าเยอะมาก (มีทุกที่) แต่ย่านนี้คนมักโดนจับ คุณต้องระมัดระวังในการเดิน

10. บันไดสเปน

Spanish Steps แหล่งชอปปิ้งที่มีสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น Gucci, Chanel, Louis เป็นต้น สำหรับใครที่อยากช้อป สถานที่แห่งนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักช้อปในทัวร์ยุโรป บันไดสเปนก็เหมือนกับสยามสแควร์บ้านเรา มีคนหนุ่มสาวจำนวนมากในบริเวณนี้และมีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ อันที่จริงเป็นคนสร้างบันไดสเปนเอง ฉันเป็นคนฝรั่งเศส. รับเงินจากพระชาวฝรั่งเศสเพื่อสร้างบันได เพียงแต่ว่า Spanish Steps นั้นตั้งอยู่ติดกับสถานทูตสเปน จึงกลายเป็นบันไดสเปน

บทความที่เกี่ยวข้อง